วันอาทิตย์ที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2558

การ์ดแต่งงานดูธรรมดาเกินไป ทำยังไงดี


              การ์ดแต่งงานถือว่าเป็นน่าเป็นตาหรือเป็นสารเปิดงานเลยก็ว่าได้ ซึ่งงานพิมพ์การ์ดแต่งงานโดยปกติทั่วไป ก็จะแบบพิมพ์สีปกติทั่วไป วึ่งบางคนอาจจะมองว่ามันดูธรรมดาเกินไป ไม่มีความพิเศษอะไร ยิ่งโดยเฉพาะถ้าเป็นการ์ดแต่งงานแบบมาตราฐานแล้วก็จะดูเหมือนๆกันไปหมด หากไม่ใช่การ์ดแต่งงานที่ออกแบบขึ้นมาเองโดยเฉพาะก็อาจจะดูไม่ต่างจากทั่วๆไปเลย ดังนั้นในทางการทำงานพิมพ์จึงมีเทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์เพื่อใช้เพิ่มความพิเศษให้กับงานพิมพ์การ์ดแต่งงาน ซึ่งจะมีหลายวิธี แต่วิธีที่นิยมทำกัน ได้แก่
1.การเคลือบ ซึ่งจะมีทั้งแบบเคลือบด้าน และเคลือบเงา
2.Spot UV หรือจะเรียกอีกอย่างว่าการเคลือบเฉพาะจุดนั้นเอง
3.ไดคัท ไดคัทเป็นการตัดตามรูปแบบที่ต้องการ เช่น การ์ดแต่งงานที่มีการไดคัทเป็นรูปหัวใจ เป็นต้น
4.ปั๊มฟอยล์เงิน/ฟอยล์ทอง ส่วนใหญ่จะนิยมปั๊มฟอยล์ในส่วนของงโลโก้หรือชื่อย่อป่าว-สาว
5.ปั๊มนูน ส่วนที่ทำการปั๊มนูนก็จะนูนยกขึ้นมาจากพื้นกระดาษปกตินั้นเอง
6.การพับ การ์ดแต่งงานแบบพับนั้น มีอลายแบบไม่ว่าจะเป็นพับครึ่ง พับแบบหน้าต่าง ฯลฯ
7.พิมพ์สีพิเศษ เช่น สีทอง สีเงิน
               ถ้าหากว่างานพิมพ์การ์ดแต่งงานที่พิมพ์สีปกตินั้น มองว่าธรรมดาเกินไป สามารถใช้เทคนิคพิเศษหลังการพิมพ์ดังกล่าวเพื่อปรับเพิ่มความพิเศษ ให้กับงานพิมพ์การ์ดแต่งงานได้

วันพฤหัสบดีที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ระบบงานพิมพ์ในการทำงานพิมพ์โบรชัวร์


         งานพิมพ์โบรชัวร์เป็นสื่อสิ่งพิมพ์ที่มีผู้รับพิมพ์โบรชัวร์มาก ทำให้ผู้ซื้อมีตัวเลือกที่หลากหลายในการสั่งทำ ซึ่งระบบสื่อสิ่งพิมพ์นั้นก็แยกออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ 2 ประเภท ได้แก่ งานพิมพ์ดิจิตอล และงานพิมพ์ระบบออฟเซต ซึ่งทั้ง สองแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป
1.งานพิมพ์โบรชัวร์ระบบดิจิตอล หากเป็นงานรีบ งานด่วน นี้เป็นตัวเลือกที่ดี ในการรับพิมพ์โบรชัวร์หากทำในระบบดิจิตอลนั้น ไม่มีขั้นต่ำในการรับทำสามารถสั่งทำได้ตามจำนวนที่ต้องการใช้งานจริงได้เลย และได้งานเร็ว แต่บางทีอาจจะมีข้อจำกัดในเรื่องของขนาดงานเพราะ ส่วนใหญ่แล้วขนาดที่ทำได้ใหญ่สุดจะเป็น A-2
2.งานพิมพ์โบรชัวร์ระบบออฟเซต งานที่ได้ออกมาสีจะแน่นกว่าดิจิตอล แต่ระยะเวลาในการผลิตจะนานกว่า และต้องทำในปริมาณที่เยอะถึงจะคุ้ม เพราะหากทำในปริมาณที่น้อยค่าใช้จ่ายจะสูงกว่าดิจิตอล
        จะเห็นว่าในการรับพิมพ์โบรชัวร์ทั้ง 2 ระบบ มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจะเลือกทำแบบไหนควรจะเปรียญเทียบกับปัจจัยในหลายๆด้าน เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้งานนั้นเอง

วันพุธที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2558

รูปแบบการพิมพ์ของงานพิมพ์คูปองชิงโชค



          งานพิมพ์คูปองชิงโชค ส่วนใหญ่จะนิยมพิมพ์สี มากกว่าพิมพ์ขาวดำ เพื่อสีสันที่สวยงามนั้นเอง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบงานด้วยว่าจะทำออกมาแนวไหน โทนสีแบบไหน ซึ่งในการทำคูปองชิงโชคนั้น หากว่าเป็นงานพิพม์ดิจิตอล ก็จะแบ่งออกเป็น
    1.พิมพ์ 1 สี ได้แก่สีดำ นอกเหนือจากสีดำ เช่น สีชมพู เขียว แม้จะพิมพ์สีเดียวก็นับเป็นงานพิมพ์ 4 สี
    2.พิมพ์ 4 สี คือ ทุกๆสี นับเป็นงานพิมพ์ 4 สี หากว่าพิมพ์สีดำและสีแดง ก็ถือว่าเป็นงานพิมพ์ 4 สี
หากเป็นงานพิมพ์คูปองชิงโชค ที่ทำในระบบออฟเซต ก็จะแบ่งออกเป็น
    1.สีดำ แดง น้ำเงิน เหลือง นับแยกเป็นแต่ละสี หากพิมพ์สีดำ และสีแดง ก็คือพิมพ์ 2 สี นั้นเอง
    2.พิมพ์ 4 สี ก็ คือ ทุกๆสี รวมกัน ไม่ต่างจากงานพิมพ์ดิจิตอล
หากว่างานรีบ งานด่วน รีบทำ รีบใช้ ก็ต้องเลือกเป็นแบบดิจิตอล และไม่มีขั้นต่ำ แต่ถ้าหากว่ามีเวลาไม่รีบร้อน ยอดสั่งทำเยอะ สีแน่น ก็ต้องเลือกเป็นออฟเซตเลย แต่สำหรับงานสื่อสิ่งพิมพ์ หรือ งานพิมพ์คูปองชิงโชคนั้น งานพิมพ์สีเดียวหรือพิมพ์สีดำนั้น จะมีค่าใช้จ่ายน้อยกว่างานพิมพ์สี

วันศุกร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ขนาดมาตราฐานของงานพิมพ์เมนูอาหาร



ในการสั่งทำเมนูอาหาร หากจะให้ง่ายในการขอราคาและงานในการจัดทำ ขนาดของงานควรจะเป็น ขนาดมาตราฐาน ซึ่งขนาดงานพิมพ์เมนูอาหารนั้น ส่วนใหญ่ที่ทางร้านที่รับพิมพ์เมนูอาหารนิยมทำ ก็จะมี
    1.ขนาดสำเร็จ A-4 (8.25'' x 11.5'')
เมนูอาหารขนาด A-4 นั้น จะนิยมทำกันเกือบทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบหมุด ปีกผีเสื้อ เข้าห่วง หรือเย็บมุงหลังคา โดยที่ A-4 จะเป็นขนาดสำเร็จ พอกางออกทั้งหมดก็จะเป็นขนาด A-3 นั้นเอง
    2.ขนาดสำเร็จ A-3 (11.5'' x 16.5'')
เมนูอาหารขนาดสำเร็จ A-3 ถือว่าค่อนข้างใหญ่ คือใหญ่เป็นอีกเท่าตัวของขนาด A-4 นั้นเอง รูปแบบของเมนูอาหารขนาด A-3 นั้นจะนิยมทำเป็นแบบเย็บหมุด เข้าห่วง หรือแบบแผ่นพลาสวูด
    3.ขนาดตามความต้องการ ขึ้นอยู่กับการออกแบบว่าอยากได้ขนาดงานเท่าไหร่ แต่ส่วนใหญ่แล้วทางร้านที่รับพิมพ์เมนูอาหารนั้น จะทำขนาดใหญ่สุดได้ไม่เกิน A-2 (16.5'' x 23'') ในกรณีของงานพิมพ์ดิจิตอล

วันอาทิตย์ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ข้อแนะนำในการเมนูอาหารแบบเย็บหมุด


        งานพิมพ์เมนูอาหารแบบเย็บหมุด หรือตอกหมุดนั้น ส่วนใหญ่ที่มีการรับทำเมนูอาหารหรือรับพิมพ์เมนูอาหารนั้น ตัวปกจะนิยมทำเป็นจั่วปังหรือกระดาษแข็งแล้วหุ้มด้วยกระดาษสติ๊กเกอร์ และจะมีการตีเส้นพับทุกหน้าตรงขอบเล่มเพื่อสะดวกในการเปิดดู และจะนิยมเคลือบไม่ว่าจะเป็นเคลือบเงาหรือเคลือบด้านเพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับงานพิมพ์เมนูอาหาร ดังนั้นเรามาดูข้อแนะนำสำหรับการทำงานพิมพ์เมนูอาหารแบบเย็บหมุดกันว่ามีอะไรบ้าง

1.เมนูอาหารแบบเย็บหมุดไม่ควรเลือกทำตัวรูปเล่มเป็นโทนสีดำหรือสีเข้มเพราะ งานสีเข้มเวลาตีเส้นพับ ในส่วนที่ตีเส้นพับตัวกระดาษจะแตกและเป็นรอยไม่สวย โดยเฉพาะถ้าเลือกใช้กระดาษที่มีความหนามากๆ ก็จะยิ่งเกิดรอยแตกได้เยอะ และเวลาคลือบตัวพลาสติกที่ใช้เคลือบก็จะพองตัวเช่นกัน

2.เวลาทำไฟล์งานสำหรับใช้พิมพ์ ควรจะมีการเผื่อขนาดของสำหรับไว้เย็บหมุดและในส่วนของเนื้อในควรเว้นขอบไว้ขยับออกมาให้มากกว่าปกนอกเพราะเวลาเข้าเล่มแล้วเปิดออก ส่วนที่ตีเส้นพับด้านในจะได้พอดีกับเส้นพับของปกนอก

3.งานพิมพ์เมนูอาหารที่มีการ SpotUV ควรจะทำการเคลือบด้วยเพื่อเพิ่มความสวยงานให้กับงานพิมพ์
ข้อความข้างบนเป็นเพียงข้อแนะนำบ้างส่วนในการทำเมนูอาหาร สำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มทำงานพิมพ์เมนูอาหาร ซึ่งหากว่าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเวลาที่ติดต่อกับผู้ที่รับทำเมนูอาหารสามารถขอคำปรึกษาได้เพราะผู้ที่มีความชำนาญในงานพิมพ์ย่อมสามารถให้ข้อมูลดีๆได้

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

รูปแบบนามบัตรที่นิยมใช้กัน


งานพิมพ์นามบัตรมีมากมายหลายรูปแบบให้เลือก ซึ่งตามร้านหรือผู้ที่ให้บริการรับพิมพ์นามบัตรนั้น ก็จะมีนามบัตรขนาดหรือรูปแบบมาตราฐานไว้ให้ลูกค้าเลือก เผื่อง่ายในการตัดสินใจนั้นเอง และนามบัตรนั้นที่นิยมทำกันก็จะมีทั้งแบบที่พิมพ์หน้าเดียว และพิมพ์หน้า-หลัง ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน โดยขนาดมาตราฐานของนามบัตรนั้นจะอยู่ที่ขนาด
    • 5.5 cm x 9 cm
    • 5 cm x 9 cm
    • 4.5 cm x 8.5 cm
หรือขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าว่าอยากได้นามบัตรไซต์ไหน พิมพ์สีปกติหรือว่าจะพิมพ์ สีดำสีเดียว ก็ขึ้นอยู่กับการออกแบบงาน นอกจากการพิมพ์สีตามปกติแล้ว ในการพิมพ์นามบัตรนั้นสามารถใช้เทคนิคทางการพิมพ์เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับนามบัตรได้ เช่นการเคลือบลามิเนต Spot UV ปั๊มนูน ปั๊มฟอยล์ การไดคัทมุมมน เป็นต้น เทคนิคพิเศษในการทำงานพิมพ์ที่กล่าวไปผู้ที่ให้บริการรับพิมพ์นามบัตรจะมีอยู่แล้วทุกที่ หากว่าสนใจเวลาทำก็สามารถสอบถามกับผู้ที่รับพิมพ์งานได้เลย หรือหากไม่รู้ว่าอะไรเป็นแบบไหนสามารถหาข้อมูลหรือตัวอย่างงานได้ตามเว็บไซต์หรืออินเตอร์เน็ต

วันเสาร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2558

สติ๊กเกอร์ไดคัท คืออะไร??


       สติ๊กเกอร์ไดคัทหรือการไดคัทสติ๊กเกอร์นั้น คืออะไรใครหลายคนอาจจะสงสัยการไดคัทสติ๊กเกอร์ก็คือการตัดสติ๊กเกอร์ที่ออกมาเป็นขนาดสำเร็จแล้วนั้นจะเป็นรูปร่างต่างๆนั้นเอง เช่นรูปการ์ตูน รูปผักผลไม้ต่างๆ เพราะโดยปกติแล้วในการทำงานพิมพ์จากกระดาษนั้น รูปทรงของวัสดุแรกเริ่มเป็นทรงกระดาษเป็นแผ่นๆ ทรงสี่เหลี่ยนผืนผ้า ดังนั้นเมื่อต้องการอยากได้งานที่เป็นรูปทรงอื่นจึงนำมาตัดหรือการไดคัทนั้นเอง ซึ่งการไดคัทนั้น ผู้ที่รับพิมพ์สติ๊กเกอร์หรืองานพิมพ์จะมีทั้งแบบที่ใช้บล็อกหรือทำบล็อกขึ้นรูปงาน และการใช้เครื่องไดคัทที่ควบคุมด้วยซอฟแวร์นั้นเอง
        งานสติ๊กเกอร์ไดคัท Sticker ที่พบเห็นกันได้ทั่วไปเลยก็ เช่น สติ๊กเกอร์สินค้าหรือฉลากสินค้าที่ติดอยู่บนขวดบรรจุภัณฑ์ต่างๆ ฝากระปุกครีมเป็นต้น ในการไดคัทงานสติ๊กเกอร์นั้น เวลาเลย์งานหรือจัดงานก่อนที่จะทำการไดคัททางผู้ที่รับพิมพ์สติ๊กเกอร์จะเผื่อขอบงานไว้เผื่อเวลาไดคัทเบี้ยว ไม่ตรง หรือเพื่อที่เวลาไดคัทจะได้ไม่ไปโดนสติ๊กเกอร์ตัวที่อยู่ถัดไป

วันอังคารที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2558

สติ๊กเกอร์มีส่วนประกอบอะไรบ้าง??


        สติ๊กเกอร์หรือกระดาษสติ๊กเกอร์ที่มีการใช้พิมพ์งานสติ๊กเกอร์ ตามร้านหรือที่ผู้รับทำสติ๊กเกอร์ใช้กันอยู่ทั่วไปนั้น หลักแล้วๆจะมีสติ๊กเกอร์ 1 แผ่น ที่ยังไม่มีการพิมพ์หมึกสีต่างๆลงไป จะประกอบด้วย
   1.ส่วนผิวหน้าหรือส่วนที่อยู่ด้านบนสุดของกระดาษสติ๊กเกอร์ เป็นส่วนที่ใช้รองรับการพิมพ์หรือรับหมึกสี ต่างๆ
   2.ส่วนที่เป็นกาว ถือเป็นส่วนสำคัญของสติ๊กเกอร์เลยก็ว่าได้ เพราะในส่วนนี้จะเป็นส่วนที่ทำให้สติ๊กเกอร์สามารถนำไปใช้ติดกับวัสดุหรือ พื้นผิวต่างๆได้
   3.สารที่เคลือบอยู่บนกระดาษรองสติ๊กเกอร์ ช่วยให้ตัวกาวและกระดาษรองสติ๊กเกอร์สามารถติดกันได้และเวลาลอกออกกระดาษจะไม่ขาด ซึ่งเวลาที่ลอกสติ๊กเกอร์จะง่ายหรือยากนั้นก็ขึ้นอยู่กับตัวสารเคลือบที่อยู่บนกระดาษรองสติ๊กเกอร์ด้วย
   4.กระดาษรองสติ๊กเกอร์ เป็นส่วนประกอบที่อยู่ด้านล่างสุด ที่พบเห็นกันมากๆก็จะมีแบบที่เป็นกระดาษรองสีเหลืองและสีขาว
        ส่วนประกอบหลักๆของสติ๊กเกอร์ก็จะแบ่งออกเป็น 4 ส่วน นั้นเอง โดยกระดาษสติ๊กเกอร์ส่วนใหญ่ก็จะมีสีขาวเหมือนกับกระดาษปกติทั่วไป ก่อนที่จะนำไปพิมพ์โดยทางผู้รับทำสติ๊กเกอร์นั้น ก็จะมีการพิมพ์ทั้งพิมพ์สีปกติ และสีพิเศษ เช่น สีทอง สีเงิน และเทคนิคหลังการพิมพ์ เช่น การเคลือบมัน/ด้าน การไดคัทเป็นรูปต่างๆตามความต้องการ

วันศุกร์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

กระดาษที่นิยมใช้ในการพิมพ์การ์ดแต่งงาน ( Wedding Card )


         การพิมพ์การ์ดแต่งงาน วัสดุที่นำมาใช้ในการพิมพ์การ์ดแต่งงานนั้น หลักๆแล้วก็คือกระดาษ โดยผู้ที่รับพิมพ์การ์ดแต่งงานนั้นก็จะมีกระดาษหลายชนิด ที่ให้ความรู้สึกในการมองเห็น และสัมผัสที่แตกต่างกันไป แต่หลักๆแล้วกระดาษที่นิยมนำมาใช้ในการพิมพ์การืดแต่งงานก็จะมี
กระดาษอาร์ตการ์ด ที่มีความหนาตั้งแต่ 190 -360 แกรม มีทั้งแบบมันและแบบด้าน
กระดาษกรีนการ์ด ที่มีความหนาตั้งแต่ 230 แกรมขึ้นไป ซึ่งกระดาษกรีนการ์ดจะมีทั้งที่เป็นพื้นเรียบธรรมดาและมี Texture หรือเป็นกระดาษพิเศษมีเป็นเส้นๆลายขวาง
กระดาษโฟโต้ ที่มีความหนาตั้งแต่ 190 -360 แกรม
นอกเหนือจากกระดาษที่กล่าวไปแล้ว ก็จะมีกระดาษพิเศษอื่นๆ เป็นกระดาษที่มีกลิ่นหอม หรือมีลวดลายบนกระดาษ มีทั้งเป็นกระดาษขาวและเป็นกระดาษสีไปเลย ซึ่งจะแตกต่างจากกระดาษธรรมดาและมีราคาที่สูงกว่า เช่นกระดาษฟาเบียร์โน่ กระดาษเบียนโค เฟลช แต่ทางผู้ที่รับพิมพ์การ์ดแต่งงานจะนิยมใช้เป็นกระดาษธรรมดามากกว่าเพราะมีต้นทุนที่ถูกกว่า นอกจากว่าทางลูกค้าที่อยากทำการ์ดแต่งงานมีความประสงคืที่จะใช้กระดาษพิเศษจริงๆ ไม่เกี่ยงไม่เรื่องค่าใช้จ่ายในการทำการ์ดแต่งงานนั้นเอง

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

สร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าโดยผ่านงานพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์


         งานบรรจุภัณฑ์ Packaging ที่มีการสั่งทำกันอยู่ไม่ว่าจะเป็นการรับทำกล่องบรรจุภัณฑ์หรือถุงบรรจุภัณฑ์ต่างๆ นอกจากประโยชน์ในการใส่และหุ้มตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์แล้ว งานกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ดีและดูสวยงาม ยังช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดี และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้านั้นๆ ได้ ผ่านรูปร่างน่าตาภายนอกของบรรจุภัณฑ์ และข้อมูลของสินค้าที่อยู่บนกล่อง ดังนั้นมาดูสิ่งที่ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าที่อยู่บนกล่องบรรจุภัณ์ว่ามีอะไรบ้าง
1.ชื่อและประเภทของสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ
2.ข้อมูลการผลิตและสถานที่ตั้งของสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ
3.ส่วนประกอบที่ใช้ในการผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้นๆ
4.ข้อความระวัง หรือข้อห้ามในการใช้ หรือคำแนะนำ
5.ขนาด น้ำหนักหรือปริมาณของสินค้าและผลิตภัณฑ์
6.เครื่องหมายการค้าที่ทำการจดทะเบียนในไทย
7.วิธีการใช้งาน

         งานพิมพ์กล่องบรรจุภัณฑ์ถือว่าเป็นหน้าตาของสินค้าและผลิตภัณฑ์เลยก็ว่าได้ เพราะในการรับทำกล่องบรรจุภัณฑ์นั้น ตัวกล่องบรรจุภัณฑ์จะห่อหุ้มตัวสินค้าอีกที เมื่อมีการหยิบจับหรือสนใจสินค้าสักชิ้น การอ่านเนื้อหาข้อมูลของสินค้าก็คือข้อความต่างๆบนตัวกล่องบรรจุภัณฑ์นั้นเอง

วันเสาร์ที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ส่วนประกอบของกระดาษสติ๊กเกอร์


         โดยทั่วไปแล้วกระดาษสติ๊กเกอร์ที่ใช้ในการรับพิมพ์สติ๊กเกอร์นั้น หากดูผิวเผินทั่วไปและมีคำถามกลับมาว่ามันมีส่วนประกอบอะไรบ้าง นั้นง่ายๆเลย ก็คงจะมองว่ามี 3 ส่วน คือ กระดาษรองล่างสุด ตัวกระดาษสติ๊กเกอร์ และตัวกาว แต่ที่จริงแล้วกระดาษสติ๊กเกอร์นั้นมีอะไรมากกว่านั้น ซึ่งหากจะแบางออกเป็นส่วนประกอบหลักๆ และทำให้เข้าใจง่ายแล้วนั้น กระดาษสติ๊กเกอร์จะประกอบไปด้วย
1.ส่วนที่อยู่ด้านบนสุด หรือว่าส่วนผิวหน้าก็ว่าได้ เป็นส่วนที่จะรองรับหมึกหรือรองรับการพิมพ์นั้นเอง
2.กาว หรือส่วนที่เป็นตัวยึดทำให้สติ๊กเกอร์นั้น มีความสามารถในการยึดติดกับสิ่งอื่นๆได้
3.กระดาษรองสติ๊กเกอร์ เป็นกระดาษส่วนที่อยู่ท้ายสุด
4.สารที่เคลือบอยู่บนกระดาษรองหลังสติ๊กเกอร์ ทำให้ตัวสติ๊กเกอร์สามารถลอกออกได้
         ไม่ว่าจะเป็นผู้รับพิมพ์สติ๊กเกอร์รายไหนๆ กระดาษสติ๊กเกอร์ที่ใช้ก็จะมีส่วนประกอบหลัก เหมือนกันคือ 4 ส่วนที่กล่าวไปข้างต้น

วันจันทร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เทคนิคในการพิมพ์ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับป้ายแท็กสินค้า (TAG)


         การรับพิมพ์ป้ายแท็ก(Tag)สินค้า ส่วนใหญ่จะนิยมพิมพ์ 1 สี(สีดำ) ถ้าใช้กระดาษน้ำตาลหรือพิมพ์ 2 สี 3 สี และ 4 สี ตามปกติเท่านั้น ไม่ได้มีการพิมพ์เทคนิคพิเศษอะไรเพิ่มเติมเพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายในการสั่งทำ ถ้าหากว่าไม่ได้ติดปัญหาในการงบในการสั่งทำ และอยากได้งานที่สวย แปลกตา ไม่เหมือนใคร ก็สามารถใช้เทคนิคในการทำงานพิมพ์มาช่วยได้ ซึ่งก็มีหลากหลายแบบเลย เช่น
     -การเคลือบ UV หรือ PVC มีทั้งแบบเงาและแบบด้าน
     -เคลือบ Spot UV หรือการเคลือบเฉพาะจุด
     -การปั้มนูน/ลึก
     -การไดคัทเป็นรูปทรงต่างๆ
     -การปั้มทอง/ปั้มเงิน/ปั้มสีพิเศษ
     -การพิมพ์สรพิเศษ เช่น สีทอง
     -การพับ
เทคนิคพิเศษในการพิมพ์ที่นิยมใช้ในการรับพิมพ์ป้ายแท็กนั้น หลักๆจะมีที่กล่าวไปข้างต้น เนื่องจากป้ายแท็ก หรือ Tag Label นั้นจะนิยมทำเป็นแผ่นเดี่ยวๆขนาดเล็ก เพื่อใช้คล้องหรือติดกับตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์นั้น ไม่มีการเข้าเล่มเหมือนงานพิมพ์พวกหนังสือหรืองานเป็นดังนั้นเทคนิคพิเศษที่ใช้จึงจะคล้ายกับพวกงานพิมพ์ตัดปลิวทั่วไป


วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

รูปแบบและขนาด ที่นิยมในการพิมพ์เมนูอาหาร

       งานพิมพ์เมนูอาหาร รายการอาหารและเครื่องดื่มนั้น มีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับการออกแบบงาน แต่รูแปบบของเมนูอาหารที่มีการนิยมทำหรือสั่งพิมพ์กันนั้น เช่น
       1.เมนูอาหารแบบเย็บหมุด ส่วนใหญ่จะมีการเย็บหมุดไม่เกิน 4 ตัว สีของตัวหมุดก็ต่างกันไป เช่น หมุดสีเงิน/ทอง
       2.เมนูอาหารที่มีการเข้าเล่มแบบซ่อนหมุด จะคล้ายกับแบบเย็บหมุด แต่ตัวหมุดจะอยู่ด้านในเล่มเมนู และการเข้าเล่มแบบซ่อนหมุดนั้น ช่วยลดรอยขีดข่วนเวลาที่นำเมนูอาหารวางซ่อนกันด้วย
       3.เมนูอาหารที่มีการเข้าเล่มแบบ เข้าห่วงกระดูกงู
       4.เมนูอาหารที่มีการเข้าเล่มแบบเย็บหมุดกลาง
       5.เมนูอาหารที่มีการเข้าเล่มแบบเย็บมุงหลังคา หรือเย็บแม็กนั้นเอง
       6.เมนูอาหารที่มีการเข้าเล่มแบบสันรูด
       7.เมนูอาหารที่มีการเข้าเล่มแบบเย็บด้าย
       8.เมนูอาหารแบบพับ ไม่ว่าจะเป็นแบบพับครึ่ง หรือพับ 2 ได้ 3 ตอน
นอกจากนี้ยังมีเมนูอาหารอีกหลายรูปแบบที่นิยมทำกันขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้สั่งทำ ส่วนขนาดที่นิยมในการรับพิมพ์เมนูอาหารนั้น จะมีขนาดสำเร็จอยู่ระหว่าง ขนาด A-3 ถึง A-5 เพราะถ้าหากว่าเล็กหรือใหญ่กว่านี้ไปแล้วจะให้ลำบากในการใช้งาน 



วันเสาร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นามบัตร ( NameCard ) ดูธรรมดามาก ทำยังไงดี??


        นามบัตรสักใบหนึ่งที่ยื่นให้กับคนอื่นนั้น เป็นเหมือนการแนะนำตัวเราเองและยังสะท้อนถึงตัวตนของผู้ที่เป็นเจ้าของนามบัตรได้ ดังนั้นการที่นามบัตรดูธรรมดาเกินไป ก็คงจะไม่ดีสักเท่าไหร่ นอกจากการพิมพ์สี ตามปกติแล้ว หากคิดว่างานพิมพ์นามบัตรที่ได้มานั้นดูธรรมดาเกินไป สามารถขอคำแนะนำจากผู้ที่ให้บริการรับพิมพ์นามบัตรได้ ซึ่งจะมีเทคนิคในการทำงานพิมพ์เข้ามาช่วยให้นามบัตรของคุณนั้นดูสวยงามยิ่งกว่าเดิม เช่น
-การไดคัทเป็นรูปทรงต่างๆ หากเบื่อกับนามบัตรทรงสี่เหลี่ยมธรรมดาแล้ว ลองเปลี่ยนมาเป็นแบบทรงกลม หรือรูปร่างต่างๆตามความต้องการได้ เพราะการไดคัทสามารถตอบโจทย์ข้อนี้ได้ดี
-การปั้มนูน/ลึก อาจจะใช้กับตัวโลโก้บริษัทเพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับงาน
-การเคลือบพลาสติก PVC เงา/ด้าน จะทำให้นามบัตรดูมันเงาขึ้น หรือดูด้านแล้วแต่เลือกทำ
นี้เป็นเพียงเทคนิคพิเศษในการทำงานพิมพ์บางส่วนเท่านั้น เพราะจะมีอีกหลายวิธีเยอะกว่านี้ หากผู้ที่สนสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามอินเตอร์เน็ตหรือผู้ที่ให้บริการรับพิมพ์นามบัตรได้

วันอังคารที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2558

การทำงานพิมพ์ใบปลิว จะเลือกใช้กระดาษแบบไหนดี

          กระดาษถือเป็นส่วนประกอบหลักในการทำงานพิมพ์ใบปลิวเลยทีเดียว เวลาที่เราต้องการทำใบปลิวหาร้านทำ ทางผู้ที่รับพิมพ์ใบปลิวนั้นก็จะคำถามกลับมาว่า ลูกค้าอยากได้กระดาษแบบไหน หากว่าเราเป็นลูกค้าใหม่ไม่เคย ไม่มีความรู้เกี่ยวกับกระดาษเลย ก็จะไม่รู้ว่าต้องใช้กระดาษอะไรแบบไหนดี โดยส่วนใหญ่แล้วกระดาษที่นิยมใช้ในการทำงานพิมพ์ใบปลิวนั้น จะเป็น
    -กระดาษอาร์ตมัน ที่มีความหนาตั้งแต่ 85 – 160 แกรม
    -กระดาษปอนด์ ที่มีความหนาตั้งแต่ 60 – 120 แกรม
ซึ่งทางร้านที่รับพิมพ์ใบปลิวนั้น จะนิยมใช้เป็นกระดาษอาร์ตมันเพราะเนื้อกระดาษจะมีความมันเงาอยู่แล้ว เวลาพิมพ์งานออกจะสวยและดูมันเงากว่ากระดาษปอนด์ แต่กระดาษปอนด์จะมีราคาที่ถูกกว่า แต่การเลือกใช้กระดาษนั้นต้องคำนึงถึงตัวงานที่จะทำออกมาด้วย เน หากเป็นงานพิพม์ใบปลิวที่พิมพ์ 2 หน้า คือ หน้า-หลัง หากเลือกใช้กระดาษที่มีความหนาน้อยเกินไป เวลาพิมพ์ออกมาสีหมึกอาจจะซึมและทะลุมาอีกฝั่งได้ทำงานออกมาไม่สวย หรือเลือกใช้กระดาษที่มีความหนาเยอะเกินไป แล้วเป็นงานที่ต้องมีการพับด้วย เวลาพับออกมางานก็จะเป็ยรอยแตก ไม่สวยเช่นกัน

วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2558

งานพิมพ์คูปองอาหารทำไมต้องมีหลายสี

           คูปองอาหารและเครื่องดื่มนั้น สามารถพบเห็นได้ทั่วไปกันเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นตามศูนย์อาหารในห้างสรรพสินค้า คูปองอาหารในโรงเรียน หรือร้านอาหารโรงแรมต่างๆ ซึ่งก็จะมีหลายสี ไม่ว่าจะเป็นสีขาว เขียว ชมพู เหลือง แล้วสงสัยไหมว่าทำไมไม่ทำออกมาเป็นสีเดียวกันแบบเดียวกันไปเลย ในการรับพิมพ์คูปองอาหารนั้น ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่สั่งทำหรือสั่งผลิตนั้น จะออกมาแบบมาให้เหมือนกันต่างกันก็ตรงที่จำนวนมูลค่าของคูปองที่ระบุไว้ในคูปองและสีของคูปอง กระดาษที่ใช้จะเป็นกระดาษปอนด์ เช่น คูปองอาหารมูลค่า 20 บาท ใช้กระดาษสีเขียว คูปองอาหารมูลค่า 50 บาท ใช้กระดาษสีฟ้า คูปองอาหารมูลค่า 100 บาท ใช้กระดาษสีชมพู เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เพราะเวลานำไปใช้งานนั้น จะได้ไม่สับสน ใช้คูปองแยกสีตามมูลค่าไปเลย และคูปองปองอาหารส่วนใหญ่โดยเฉพาะที่ใช้กันตามศูนย์อาหารและในโรงเรียนนั้น จะนิยมเข้าเล่มและทำการฉีกปรุเพราะเวลาใช้งานก็ฉีกตามรอยปรุเป็นใบๆให้กับลูกค้าไป หรือบางทีหากต้องการให้งานออกมาดูดีขึ้นมาอีกระดับนึงก็จะทำออกมาเป็นใบๆไปเลย ออกแบบงานให้ดูสวยงามใส่ข้อความและรูปภาพประกอบต่างๆ และอาจจะมีการเพิ่มความสวยงามให้กับงานพิมพ์คูปองอาหารโดยการ ปั้นนูนตัวโลโก้และชื่อ หรือ ปั้มเคเงิน/ทอง หรือการเคลือบ PVC ด้าน/เงา หรืออาจจะใช้เทคนิคพิเศษในการพิมพ์งานแบบอื่นๆได้ สามารถสอบถามทางร้านหรือผู้ที่ให้บริการรับพิมพ์คูปองได้

วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

จุดเด่นของงานพิมพ์โปสเตอร์ Poster

              จุดเด่นของงานพิมพ์โปสเตอร์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเหตุผลของการเลือกใช้โปสเตอร์เป็นสื่อในการโฆษณาและประชาสัมพันธ์ก็คือ ทำให้สามารถเข้าถึงตลาดได้อย่างกว้างขวางและครอบคลุม รวดเร็ว โดยเฉพาะการติดตั้งโปสเตอร์ตามสถานที่ต่างๆ กระจายไว้หลายๆ แห่ง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ตามแต่ต้องการเพราะสามารถกำหนดได้ว่าจะติดตั้งโปสเตอร์ดังกล่าวไว้เฉพาะบริเวณพื้นที่ที่ต้องการเข้าถึงในส่วนไหน อีกทั้งยังเป็นสื่อที่ไม่มีข้อจำกัดในเรื่องเวลา งานพิมพ์โปสเตอร์โฆษณานั้นสามารถพบเห็นได้ตลอด 24 ชั่วโมง มีขนาดใหญ่ มีสีสันและเทคนิคต่างๆ ที่ทำให้เป็นที่สะดุดตา สะดุดใจได้ง่าย สามารถใช้เป็นสื่อเสริมสนับสนุนสื่ออื่นๆ ได้ดีในลักษณะการย้ำเตือนความจำหรือเสนอข่าวสารแบบสั้นๆ ที่สำคัญค่าใช้จ่ายในการทำโปสเตอร์สำหรับโฆษณาแล้วถือว่าค่อนข้างต่ำเมื่อเทียบกับผลตอบรับที่ได้มาคือ มีผู้พบเห็นมาก โดยเฉพาะโปสเตอร์ที่มีขนาดใหญ่ อย่างเช่นป้านบิลบอร์ดโฆษณา

งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ฮาโรแกรม Sticker Holograms


งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ฮาโรแกรมมีหลายสีและหลายลาย จะมีลักษณะแวววาวเป็นพิเศษ มองดูเหมือนภาพ 3 มิติ เวลาพิมพ์ ลงบนวัสดุพื้นผิวต่างๆแล้วสีจะออกมาแวววาวสวยงามเป็นพิเศษ จุดเด่นของสติ๊กเกอร์ฮาโรแกรมเลยก็คือ จะมีความสวยงาม แวววาว และมีให้เลือกหลายลาย ทนความร้อนได้ 40-60 องศา และสามารถโดนน้ำได้ 100% ใช้ติดลงบนผลิตภัณฑ์ในห้องน้ำได้เลย เช่น เครื่องทำน้ำอุ่น
งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ฮาโรแกรมนั้น นิยมใช้พิมพ์เครื่องหมาย มอก. สติ๊กเกอร์ป้องกันการเลียนแบบสินค้า สติ๊กเกอร์ติดเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ งานพิมพ์สติ๊กเกอร์ติดอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มความโดดเด่น และสะดุดตาให้กับตัวผลิตภัณฑ์และสินค้านั้นๆ

วันพุธที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ขั้นตอนในการเตรียมงานทำงานพิมพ์ใบปลิว FLYER


1.จัดทำแผนการการตลาด
การพิมพ์ใบปลิวเพื่อการโฆษณาและประชาสัมพันธ์เป็นส่วนหนึ่งของแผนการตลาดทั้งหมด ซึ่งบางกรณีต้องมีการทำวิจัยตลาดของผลิตภัณฑ์และบริการนั้นๆด้วย ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมาย จุดขายของงาน ซึ่งถือว่าต้องใช้งบประมาณในการทำวิจัยทางการตลาดที่ค่อนข้างสูง วิธีที่สามารถจัดทำอย่างประหยัดได้ก็ เช่นการวิจัยทางการตลาด ก็ใช้วิธีสอบถามกลุ่มเป้าหมายด้วยตนเอง การหาจุดขายผลิตภัณฑ์ ก็ใช้วิธีเปรียบเทียบสินค้าคู่แข่ง ฯลฯ

2.การกำหนดวัตถุประสงค์
ก่อนที่จะจัดทำใบปลิว ต้องรู้ถึงจุดประสงค์ในการจัดทำว่า ทำขึ้นมาเพื่ออะไร ที่ไหน กับใคร อย่างไร เช่น ทำขึ้นเพื่อแนะนำสินค้าและบริการหรือต้องการส่งเสริมการขาย จัดทำโปรโมชั่นต่างๆ

3.กำหนดหัวข้อที่จะทำลงในงานพิมพ์ใบปลิวใบปลิว
เป็นการกำหนดเนื้อหาและรูปภาพต่างๆที่จะใช้ทำลงในใบปลิว โดยเนื้อและรูปภาพนั้นเป็นเรื่องราวเดียวกัน

วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

งานพิมพ์บัตรส่วนลด/คูปองส่วนลด Coupun


           งานพิมพ์คูปองส่วนลดหรือบัตรส่วนลดนั้น ใช้สำหรับเป็นส่วนลดในการซื้อสินค้าและบริการ หรือ เป็นบัตรสมาชิก แจ้งส่วนลดสินค้า พร้อมทั้งเงื่อนไขการใช้ส่วนลด ใช้ในการส่งเสริมการขายและช่วยกระตุ้นยอดขายให้ลูกค้ากลับมาซื้อสินค้าและบริการ  โดยใช้ส่วนลดเมื่อมีการซื้อสินค้าและบริการมาเป็นแรงจูงใจในการซื้อซ้ำ เหมาะสำหรับร้านอาหาร ร้านสปา ธุรกิจท่องเที่ยว หรือธุรกิจที่ขายสินค้าและบริการ สามารถใช้ได้กับทุกคนไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเก่าหรือลูกค้าใหม่
           คูปองส่วนลดและบัตรส่วนลด ที่นิยมใช้กันจะมีขนาดที่ไม่แน่นอน ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้า โดยกระดาษที่ใช้ในการพิมพ์บัตรส่วนลดและพิมพ์คูปองส่วนลดนิยมใช้ใช้ กระดาษอาร์ตมัน,อาร์ตการ์ด การพิมพ์บัตรส่วนลด คูปองส่วนลด คือ นิยมพิมพ์ 4 สี พร้อมกับมีตัวเลขรันนัมเบอร์ และมีการพิมพ์ทั้ง 1 หน้าและ 2 หน้า เทคนิคพิเศษในการพิมพ์คูปองส่วนลดและบัตรส่วนลด คือการเคลือบ UV เคลือบPVCมันหรือด้าน Spot UV การปั้มนูน ปั้มทอง/ ปั้มเงิน / ปั้มสีพิเศษ การพิมพ์สีพิเศษ การพิมพ์ลายน้ำ ทั้งนี้การทำคูปองบัตรส่วนลดนั้นจะมีการกำหนดวันเวลาที่ต้องใช้งานเอาไว้ เช่น ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคา ถึง 15 มกราคม

กระดาษที่ใช้พิมพ์โบรชัวร์ Brochure


กระดาษที่ใช้ในการทำงานรับพิมพ์โบรชัวร์ Brochure จะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ ก็คือ 
            1.กระดาษที่ใช้ทำหน้าปก  กระดาษที่ใช้พิมพ์หน้าปกโบรชัวร์จะเป็นกระดาษที่มีความหนาตั้งแต่ 80 แกรมขึ้นไป  มีทั้งกระดาษปอนด์ กระดาษอาร์ตมัน กระดาษอาร์ตด้าน กระดาษอาร์ตการ์ด กระดาษแฟนซีและกระดาษพิเศษต่างๆ

            2.กระดาษที่ใช้ในการพิมพ์โบรชัวร์ในส่วนของเนื้อใน  ส่วนใหญ่นิยมใช้กระดาษปอนด์ที่มีความหนาตั้งแต่ 80 แกรมขึ้นไป กระดาษอาร์ตมันหรือด้าน ที่มีความหนาตั้งแต่ 90 แกรมขึ้นไป หรือใช้เป็นกระดาษถนอนสายตา
บางทีเพื่อเป็นการใช้หยัดค่าใช้จ่ายในการพิมพ์โบรชัวร์ ตัวปกและเนื้อในอาจจะได้เป็นกระดาษชนิดเดียวกัน และหากการรับพิมพ์โบรชัวร์ที่ไม่ต้องมีการเข้าเล่ม อาจจะเป็นโบรชัวร์แบบพับก็จะไม่ยุ่งยากในเรื่องของกระดาษเพราะไม่มีหน้าปกที่ต้องทำ


 

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เทคนิคในการพิมพ์การ์ดเชิญ/บัตรเชิญ Invitation


งานพิมพ์การ์ดเชิญและบัตรเชิญ Invitation Card  นอกจากจะมีการพิมพ์แบบ 1 สี 2 สี 3 สี 4 สี แล้วยังสามารถพิมพ์สีพิเศษ เช่น สีเงินหรือสีทอง เป็นการเพิ่มความน่าสนใจและความสวยงามให้กับเนื้อหาในงานพิมพ์การ์ดเชิญและบัตรเชิญแล้ว ยังมีเทคนิคพิเศษในการทำงานพิมพ์อื่นๆอีก เช่น
            1.การเคลือบพลาสติก PVC ด้านหรือเงา เพื่อเพิ่มความมันเงาให้กับการ์ดเชิญบัตรเชิญ การเคลือบนั้นจะทำให้การ์ดเชิญและบัตรเชิญมีความหนาขึ้นเล็กน้อย
            2.การเคลือบเฉพาะจุด Spot UV นิยมใช้กับตัวอักษรหรือรูปภาพที่ต้องการเน้นเฉพาะเพื่อเพิ่มความโดดเด่น จุดที่ทำการเคลือบ Spot UV จะนูนขึ้นมาเล็กน้อยและมีความมันเงา
            3.การปั้มนูน/ปั้มลึก นิยมใช้กับตัวโลโก้จะมีลักษณะที่นูนขึ้นหรือลึกลงไปตามแบบที่ทำการปั้มลงบนกระดาษ
            4.การไดคัท นิยมทำไดคัทมุมหรือการไดคัทเป็นรูปร่างต่างๆก็สามารถทำได้
            5.การปั้มฟอลย์หรือปั้มเคเงินเคทอง
            งานพิมพ์การ์ดเชิญและบัตรเชิญโดยการใช้เทคนิคพิเศษในการพิมพ์เพิ่มเข้ามาก็จะทำให้มีค่าใช้จ่ายในการพิมพ์เพิ่มตามไปด้วย แต่ก็เป็นการเพิ่มความสวยงามให้กับการ์ดเชิญและบัตรเชิญมากขึ้น ถ้างบในการพิมพ์การ์ดเชิญและบัตรเชิญมีไม่มาก ก็เพียงแค่ออกแบบการ์ดให้สวยและพิมพ์ 4 สี ตามปกติก็จะได้การืดเชิญและบัตรเชิญที่สวยงามเหมือนกัน